วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2558

รีวิว Sennheiser MX 980

อ้างอิงจาก http://www.head-fi.org


Review Sennheiser mx 980

แนะนำ
Sennheiser ปล่อยออกมาใหม่ทั้งหมด 980 ชุดหูฟังที่ทุกคนแบ่งปันบางองค์ประกอบของการออกแบบขั้นพื้นฐาน (และอาจจะมีลายเซ็นเสียงเช่นกัน) การออกแบบของใหม่ 980 ชุดได้รับการดูแลโดยแผนกออกแบบของ BMW ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ฉันอาศัยอยู่ในมิวนิค, เยอรมนี, ฉันรู้สึกสัมผัสที่คุ้นเคยของความคิดมากกว่า BMW ทุกแพคเกจทั้งหมดของ MX 980 นี้
ผมเองเอง Sennheiser HD-800 และ HD-650 และฉันค่อนข้างคุ้นเคยกับบ้านเสียงที่ยังสร้างและคุณภาพการตกแต่งของ Sennheiser การดำเนินงานของพวกเขาในแต่ละหู / หูฟังจะไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว ผมมีความสุขที่จะเห็นปัจจัยที่สำคัญและมีชื่อเสียงเหล่านี้จะถูกโอนไปยัง MX 980 ได้ดีจริงๆ
ในการทบทวนนี้ผมทดสอบ MX 980 มีทั้งหมดของเกียร์ของฉันที่มีอยู่และจงใจข้ามหมวดหมู่ของมัน ฉันรู้ว่ามันไม่ได้เป็นมืออาชีพ แต่ฉันได้จุดของฉันทำเช่นนี้ ฟังได้กระทำโดยใช้ซิมโฟนีไมเออร์เสียงที่จะขับรถหูฟังทั้งหมดและ Marantz CD5003 เป็นแหล่งที่มาผ่านทางคู่
การออกแบบและพอดี
MX 980 อ้าง Sennheiser เป็น "ความจงรักภักดีสูงโลหะปั้นหูฟัง" ในความคิดของฉันมีความเที่ยงตรงสูงไม่ควรนำไปใช้กับคุณภาพเสียงเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีทั้งความรู้สึกโดยรวมของหูฟัง ฉันได้รับการเพลิดเพลินกับ MX 980 ไม่ได้เป็นเพียงแค่มุมมองเกี่ยวกับเสียงที่เริ่มต้น แต่ยังแต่ละอุปกรณ์เสริมของแต่ละบุคคล มีหลักฐานทุกที่ของความคิดของพวกเขาที่ลำเลียงไปยังแพคเกจทั้งหมดที่มี
เช่นเดียวกับคำพูด, MX 980 เสร็จสิ้นด้วยโลหะผสมอลูมิเนียมขัดเงาซึ่งโฮสต์พลาสติกสีดำขนาดใหญ่ที่อยู่อาศัยลำโพง ในส่วนของโลหะผสมซ้ายอนุกรมหมายเลขเลเซอร์สลักอยู่บนนั้น สายวิ่งจากแต่ละด้านของหูฟังที่จะแยก มีปลอกคอที่นี่คล้ายกับ SHUREs ซึ่งปรับเปลี่ยนความยาวสายเคเบิลจากแยกไปยังหูฟังสำหรับแบบที่ดีกว่าคือ ในช่วงกลางของสายเคเบิลที่มีปริมาณการปรับ ตกลงผมเชื่อว่าบางส่วนของคุณจะหยุดอ่านที่นี่ ผมไม่ได้เป็นแฟนของการควบคุมปริมาณมากเกินไป ผมเคยได้ยินว่าการใช้สิ่งดังกล่าวเป็น fobidden ในดินแดน Hi-Fi แต่น่าแปลกใจที่ผมรู้สึกว่ามันเป็นเพียงที่เหมาะสมสำหรับ MX 980 (ฉันจะกลับมาที่นี้ต่อไปในการฟังบางส่วน) สายเคเบิลถูกยกเลิกไปยังปลั๊กขนาด 3.5 มมที่ดีเยี่ยม ปลั๊กเสร็จสิ้นด้วยโลหะผสมเดียวกับที่ใช้ในหูฟัง MX 980 เป็นหนึ่งในหูฟังที่สวยที่สุดที่ผมเคยเห็น ความรู้สึกที่มีคุณภาพเพียงอย่างเดียวอาจจะคุ้มค่าป้ายราคา 110 ยูโร
อุปกรณ์ที่จะถูกรวมอย่างไม่เห็นแก่ตัว คุณจะได้รับอะแดปเตอร์ในเที่ยวบินคลิปสายเคเบิล, เครื่องหนังกระเป๋าที่มีพลาสติกแข็งที่จะต้องให้ MX 980 ของอุปกรณ์ทั้งหมดที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้ตรงกับ MX 980 เป็นอย่างดี บรรจุภัณฑ์ที่ตัวเองก็ยังทำได้ดีและน่าสนใจ สำหรับรูปลักษณ์เพียงอย่างเดียวก็ยากที่จะ surpress ราคาของ MX 980 ต่ำกว่า 100 ยูโร มันจะมีลักษณะพิเศษและพิเศษ มันมีน้ำหนักมากเกินกว่าหูฟังปกติ แต่ไม่มากเกินไปสำหรับคุณที่จะรู้สึกอึดอัด
หูฟังล่าสุดผมเองเป็น SONY MDR-E888 ผมชอบมันมากเพื่อคุณภาพเสียงและแบบที่ได้รับการยอมรับ ฉันมีปัญหาน้อยที่จะให้มันมั่นคงในหูของฉันกว่า MX 980 ผมรู้สึกแบบของ MX 980 ไม่ได้เป็นที่เหมาะสมที่ เนื่องจากรอบและขนาดใหญ่ที่อยู่อาศัยลำโพงสีดำก็ไม่ได้พอดีกับหูของฉันดี มันมักจะลดลง ตามปกติสำหรับหูฟัง (ที่หูฟัง) เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ extremly นี้มีผลต่อคุณภาพเสียงเป็นพิเศษในช่วงกลางเดือนและต่ำ ฉันออกจาก MX 980 ที่บ้านตั้งแต่ฟังในระหว่างการเดินทางไม่ได้อยู่ที่การปฏิบัติทั้งหมด ฉันพึ่งพา SHURE SE530 หรือ SONY MDR-E888 เกี่ยวกับเรื่องนี้ MX 980 เนื่องจากการที่ไม่เหมาะสมพอดีดำเนินการที่น่าผิดหวังค่อนข้างเพื่อป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณมีที่เหมาะสมคุณจะได้รับการตอบแทนอย่างมาก (เหมือนที่ผมทำในขณะนี้การตรวจสอบการพิมพ์สำหรับคุณผู้ชายนี้)
คุณภาพเสียง
Sennheiser กล่าว (ในการโฆษณา) หูฟังนี้จะมีความสมดุลและ preicsely พันธุ์เสียง ฉันอาจจะได้เห็นด้วยกับพวกเขา MX 980 prefroms ได้เป็นอย่างดี หลังจากการเผาไหม้ในเวลาหนึ่งสัปดาห์ก็ส่องและเรียกร้องสถานที่ที่เป็นหนึ่งในหูฟังที่ดีที่สุด (ที่ไม่ใช่ IEM) ผมเคยเป็นเจ้าของหรือมีประสบการณ์
กลางของมันคือเรียบมากด้วยการสัมผัสบิตของด้านที่อบอุ่น สูงจะขยายดีไม่ exaggerately ประกาย แต่เป็นกลาง ถ้าคุณได้รับพอดี rigth คุณจะมีพลังเสียงเบสที่ขยาย ที่มีประสิทธิภาพยังวางกลับ แต่ไม่ว่าลึก abyssally MX 980 มีเสียงกว้างแนวนอนเป็นส่วนใหญ่ เสียงเป็นอย่างมากและเป็นธรรมมาก spartial สำหรับหูฟังขนาดนี้
เคลลี่หวานร้องเพลงฮิตล่าสุดของเธอ "เสื้อกันฝน" หวาน เสียงของเธอตรงกับความเรียบเนียนของ MX 980 อาร์เน Domnerus ของ "ไลม์เฮาส์บลูส์" จากดนตรีแจ๊สที่โรงรับจำนำมีชีวิตชีวา แซกโซโฟนเป็นไปอย่างราบรื่นและในตำแหน่งที่ดี การถ่ายภาพของแต่ละเครื่องดนตรีแต่ละคนจะถูกวางไว้ค่อนข้างชัดเจน แต่ไม่ spartially พวกเขาร่วมกันในกลุ่มกลางมีความแตกต่างในเชิงลึก impreceptible บาง อัลบั้มใหม่ของโซล Gabetta เอลก้าไวโอลินคอนแชร์โต้ "ติดตาม 1 -. คอนแชร์โต้สำหรับไวโอลินและวงออเคสตราในอีเล็กแย้มยิ้ม 85" มีที่น่ารักเหมือนกันช่วงกลางถึงสูงแสดงในเพลงที่กล่าวถึงเหล่านั้น การวางตำแหน่งของเครื่องมือที่ดีแม้ว่าจะไม่ได้เป็นที่ขาจุดที่แม่นยำ
เปรียบเทียบกับ SONY MDR-E888, ช่วงกลางของ MX 980 เป็นจำนวนมาก แต่ไม่เรียบเนียนสูงของการขยาย E888 ร่วมกับที่ขยายเสียงเบสที่ E888 ล้มเหลวอย่างมากที่มีประสิทธิภาพดีกว่า MX 980 E888 กลางและต่ำ ผมเปรียบเทียบมันกับ SHURE SE530 เช่นกัน SE530 มีความแม่นยำที่ดีเยี่ยมจาก 3 ไดรเวอร์กระดองของมัน soundstaging และการถ่ายภาพจะทำดีกับมัน ผมเชื่อว่าทุกคนรู้ว่า SE530 เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับปีที่ผ่านมา แม้ว่า SE530 เป็นจำนวนมากที่ดีขึ้นในหลายพื้นที่โดยเฉพาะอย่างยิ่งความพอดีและความสะดวกสบายเมื่อเทียบกับ MX 980, MX 980 ไม่ขาดประสบการณ์เสียงที่สร้างแรงบันดาลใจที่ทุกคน ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบการฟัง, MX 980 เป็นที่สนุกสนานและวางกลับยังสนุกกับการฟังเสียงที่มีคุณภาพโดยรวม
สิ่งที่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึงก็คือว่า MX 980 อาจจะต้องมีแอมป์จะขับมันให้เต็มศักยภาพ ฉันกระมังมันซิมโฟนีไมเออร์เสียงในโหมดกำไรต่ำ แม้ว่า Sennheiser อ้างความไว 120 เดซิเบลของผมพบว่ามันขาดบางส่วนของความเรียบเนียนและ Impack ในภูมิภาคต่ำเมื่อใช้กับ COWON A3 ของฉัน SE530 แต่มีปัญหาในการผสมพันธุ์กับ A3 ไม่มี
หมายเหตุ: การควบคุมระดับเสียง
ดังกล่าวก่อนหน้า MX 980 มาพร้อมกับการควบคุมระดับเสียงที่ถอดออกไม่อยู่ตรงกลางระหว่าง spliter สายและปลั๊ก 3.5 มม นี้เป็น แต่ไม่ได้เป็นตัวควบคุมระดับเสียงเดิมที่เปิดระดับเสียงทั้งหมดออกและตำแหน่งศูนย์ การดำเนิน MX 980 เป็นบิตที่แตกต่างเพราะมันไม่ได้สมบูรณ์เปิดเสียงลง แต่ตั้งไว้ที่ระดับต่ำ แต่เสียง การดำเนินการ
นี้อาจเป็นประโยชน์มากคือคุณอยู่ในระหว่างการเดินทางและใช้ MX 980 ด้วยโทรศัพท์หรือ mp3 เล่นของคุณ ผมชนิดเช่นมัน
สรุป
ก่อนที่ผมจะข้ามไปยังสรุปผมเชื่อว่าจะทดสอบ MX 980 ด้วย HD-650 เพราะเสียงของ Sennheiser มากที่หูของฉัน ฉันมาถึงข้อสรุปที่ว่า MX 980 ทำให้ผมนึกถึงมากของ HD-650 มันเป็นช่วงกลางที่อบอุ่นและเรียบสูงคล้าย ๆ กับ HD-650 กับขยายค่อนข้างต่ำ แน่นอนผมไม่ได้หมายถึง MX 980 ก็เปรียบได้กับ HD-650 มันเป็นเพียงความรู้สึกว่าคุณสามารถมี Sennheiser HD-650 ของบ้านเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแพคเกจนี้ นั่นอาจจะเป็นคนเดียวที่คุ้มค่าสำหรับทุกคนที่ชอบ HD-650 และต้องการที่จะมีไว้ในระหว่างการเดินทาง
มีคุณมีมันเป็นครั้งแรกของฉันที่เคยรีวิวเต็มรูปแบบของหูฟัง ฉันจะได้รับการชื่นชมและตอบกลับความคิดเห็นของคุณ ขอบคุณล่วงหน้า!

ขอขอบคุณ kenta  http://www.head-fi.org/

วันอังคารที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2558

รีวิว DIY THAI:Black Onyx Earbud

อ้างอิงจาก forum.munkonggadget.com/

ขออนุญาตใช้พื้นที่เล่าสู่กันฟังครับ เปรียบเสมือนรีวิวแบบขำๆ ก็แล้วกันครับ
หลังจากได้รับหูฟัง DIY ตัวล่าสุดจากคุณอ็อฟ(oxymoron)จากกระทู้ http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=187376
หลังจากสั่งไว้นานหลายวัน ซึ่งเจ้าตัวนี้ คือ Black Onyx Earbud นั่นเอง 555
หลังจากคุณบุรุษไปรษณีย์มาส่งก็รีบแกะมาลองทันที( เห่อของใหม่555)
เมื่อแกะกล่องออกมาจะพบกับ กระเป๋าใส่หูฟัง 1 ใบ เอ๊ะทำไมมีใบเดียว ลืมไปสั่งไปชุดเดียว 555(ตึ่งโป๊ะ!!!)
เริ่มเปิดดูภายในกระเป๋าจะพบ หูฟัง 1 ตัว ฟองน้ำเจาะรู 2 คู่ Digital Download Code 1 ใบและใบรับประกัน6เดือน 1 ใบ



Source = Nexus 4/Dell Venue 3840/samsung galaxy note 10.1/iPod classic/iPod Nano
ไฟล์เพลง = เพลงไทย เพลงสากลปนๆ กันไป Mp3 320Kbps/M4a/Wav
หูฟัง Earbud ที่มีตอนนี้ = PK1/PK2/Zen/V2/BEE/BOE

มาลองฟังเสียงกันดีกว่า เทียบกับหูฟัง Earbud ที่มีอยู่ในตอนนี้แล้วกันครับ (ตามคำแนะนำที่อยู่ในกระเป๋าบอกว่าเบิร์นมา 50 ชั่วโมงแล้ว ต้องเบิร์นถึงประมาณ 200 ชั่วโมงเพื่อเสียงที่ดีที่สุด แต่ผมขอไม่รอนะครับ ขอเล่าให้ฟังก่อน ครบ 200 ชั่วโมงแล้วจะมาเพิ่มเติมว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง555)
รายละเอียดเสียงดีมาก ดีกว่า BEE/V2 แต่ยังไม่ถึงระดับ Zen
ปลายเสียงแหลมดี เหมาะกับเพลงฟังสบายๆ เพลินๆ แต่แหลมไม่เท่า PK2 ครับ
สเตจกว้างครับ ไม่อึดอัด เมื่อเทียบกับ BEE กว้างกว่ากันพอสมควร หากเทียบกับ V2 จะกว้างกว่าเยอะในทันที ทันใด
เสียงกลางชัด ไม่กลบย่านอื่น แต่ไม่เด่นออกมาเหมือน BEE เพื่อนๆ ที่ชอบเสียงกลางเด่นๆ น่าจะชอบ BEE มากกว่า BOE
เสียงกลาง BOE เป็นแบบสมดุลไม่ได้โดดเด่น เกินหน้าเกินตา ออกมาจากเสียงอื่นๆ ซึ่งผมชอบมาก แนวๆ นี้ครับ
เสียงเบสหากเทียบกับ BEE/V2 ต้องบอกว่า BOE เสียงเบสเป็นมวลเบสที่ไม่ได้ดุดัน เป็นเสียงเบสที่ฟังแล้วสบายๆ มีสมดุลดี ไม่เยอะจนเกินไป ปริมาณเบสอยู่ระหว่าง PK1,Zen>BOE ไดนามิคทำได้ดีครับ ไม่ว่าต่อกับเครื่องอะไรที่ผมมีนะ เสียงออกมาโทนที่ผมบอกไป ไม่แตกต่างกันมากนัก
นำไปต่อกับ Smartphone/Tablet ก็สามารถขับได้สบายๆ ไม่มีอาการอั้นแต่ประการใด จัดเป็นหูฟังขับไม่ยากอีกตัวครับ
วัสดุที่ใช้ครั้งนี้เทียบกับ BEE/V2 ก็ดีกว่าเก่า สายนิ่มดี เก็บง่ายดี รุ่นนี้แถมกระเป๋า รุ่นเก่าแถมซองซิบ 555




สรุป : BOE เป็นหูฟังที่ตามความรู้สึกส่วนตัวผมคิดว่า คุณภาพเสียงเกินราคา คุ้มค่าดีครับ โดยรวมเนื้อเสียงค่อนข้างสมดุลมาก ฟังเพลงได้ทุกแนวที่ผมฟังอยู่
แต่ไม่เหมาะกับแนว Metal แน่ๆ ซึ่งปกติผมไม่ได้ฟังอยู่แล้วด้วย 555
ถ้าคะแนนเต็ม10คะแนน ผมให้แบบนี้ครับ (เทียบกับหูฟังที่มีตอนนี้ครับ)
เบส 7 กลาง 7 แหลม 8 สเตจ 9 ความคุ้มค่า 9
ถือเป็นอีกหนึ่งผลงาน DIY ที่ผมชอบครับ ด้วยค่าตัว 790 บาท จัดว่าคุ้มมากครับ ตอนนี้ชอบพอๆ กับ BEE ครับ V2 เบสเยอะไปหน่อย
ท่านใดได้รับ BOE แล้วเล่าสู่กันฟังได้ครับ แชร์ข้อมูลเผื่อมีสิ่งใดเพิ่มเติมได้ครับ

ปิดท้ายนี้ขอขอบคุณพื้นที่เว็บมั่นคงครับ และขอให้คุณอ็อฟขายได้เยอะๆนะครับ งานไทย ไทยทำ ไทยใช้ครับ 555
วันนี้ขอตัวลาไปก่อน...ครบ 200 ชั่วโมงจะกลับมาเพิ่มเติมข้อมูลใหม่
ขอบคุณครับ


ขอขอบคุณ Devilbater,oxymoron รูปจาก:eXKuNG iPood  forum.munkonggadget.com/

https://www.facebook.com/earbudsthailand?fref=ts

รีวิว DIY THAI:Black Eagle Earbud

อ้างอิงจาก forum.munkonggadget.com



รีวิวฉบับย่อ "pk1 killer พันธุ์ไทย"

หลังจากที่เคยทึ่งกับ White Crystal Earbud V.1 และ V.2 มาแล้ว ซึ่งเป็นearbud ราคาถูก (มาก) แต่ราคาเกินตัวไปเยอะ จนยอดจองพุ่งกระฉูด..

คืนนี้กลับมาถึงบ้าน มีกล่องพัสดุส่งมา ข้างในมันคือ earbud ตัวล่าสุดของคุณออฟ "BEE" รีบแกะมาลองทันที แวบแรกที่เห็นตัวบอดี้ดูดีกว่า v1 และ v2 แต่โดยรวมก็ยังดูเทียบของนอกไม่ได้ โดยเฉพาะแจ็ค 3.5 ดูธรรมดามากครับ
ช่างมัน เราซิ้อมาฟังเสียง ไม่ได้เอามานอนกอด..

เสียบเข้าเพลเยอร์ DX100 วินาทีแรกที่ได้ยินเสียง นี่ตรูหยิบ pk1 มาฟังเปล่าว่ะ ใช่ครับ "BEE" มีโทนเสียงต่างจาก v1และv2 อย่างกับไม่ได้คลอดจากท้องเดียวกัน
มันให้มวลเสียงที่หนา เบสลูกใหญ่.ญญ..มาก แต่ปลายแหลมยังคงชัด ไม่ไดถูกกลบแต่อย่างใด

stage กว้างมาก เสียดายผมปล่อย pk1 ออกไปแล้ว ไม่งั้นคงได้วัดกันแบบหมัดต่อหมัด แต่จากความจำที่ยังไม่เลือนลาง ผมว่า "BEE" มีแนวเสียงใกล้เคียงกับ pk1 มาก (ใครมี pk1 ลองเทียบดูแล้วมาบอกอีกทีนะครับ)

โดยรวมผมว่า BEE ให้โทนเสียงที่ใหญ่เหมือนฟัง full size มีความเป็น audiophile สูง เหมาะกับเพลง vocal, jazz ส่วน rock ก็ได้อยู่ครับ เพราะเสียงกลางไม่ถอย

"BEE" อาจจะแค่ใกล้เคียง แต่ไม่ไดเหนือกว่า pk1 แต่ด้วยค่าตัวที่ 590 บาท ผมว่ามันคือ "pk1 killer พันธ์ุไทย"

ท่านใดได้รับ BEE แล้ว ลองมาเล่าสู่กันฟังหน่อยนะครับ เผื่อมีความเห็นต่าง จะได้ช่วยกันแชร์ข้อมูลครับ

ยินดีและขอบคุณอีกครั้ง กับฝีมือนัก diy พันธุ์ไทยอย่างคุณออฟครับ
ขายได้เยอะนะครับ จะได้มีกำลังใจพัฒนาตัวใหม่สู่วงการครับ

ขอบคุณครับ


ขอขอบคุณ  tore22 ,  oxymoron   forum.munkonggadget.com

รวมมินิรีวิว DIY THAI

อ้างอิงจาก forum.munkonggadget.com/

ขออนุญาตมาบอกเล่า ear bud เสียงดีฝีมือคนไทยที่เข้าใกล้ mx980 ไปอีกขั้น

White Crystal Earbud  



White Crystal Earbud V.2


ต้องขออนุญาตใช้คำว่าบอกเล่าไม่ใช่รีวิว เพราะผมคงไม่ใช่หูเทพแค่อยากเอาประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง

ก่อนหน้านี้ผมเคยได้เล่าเกี่ยวกับ mx580 โมโดยช่างจันทร์ ซึ่งเป็นหูฟังที่ทำให้ผมทึ่งและประหลาดใจมาก 
ด้วยราคาแค่ 850 บาท กลับให้เสียงที่ดีมาก การแยกชิ้นดนตรีและปลายแหลมละเอียดกว่า mx980 
แต่เบสอาจจะบางไปนิดทำให้อิมแพคไม่เท่า mx980

คราวนี้ผมได้มีโอกาสลองหู DIY โดยคุณออฟ (oxymoron) จากกระทู้นี้
http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=102075

ตอนแรกผมรับมา 3 ตัว คือ Crystal Earbud 1 (รายการที่3) ตัวหูฟังดูก๊องแก๊ง (เรียกได้ว่าดูกระจอกเลยล่ะ) 
ค่าตัว 190 บาท แต่พระเจ้าลองฟังครั้งแรก เสียงดีใช้ได้ จุดเด่นอยุ่ที่ stage กว้างมาก ปลายแหลมละเอียด 
แต่ยังไม่เท่า mx580 ของช่างจันทร์ แต่เบสอาจจะน้อยไปหน่อยทำให้อิมแพคลดตามไปด้วย 
แต่โดยรวมถือว่าเกินราคาไปเยอะ (ตัวนี้ยกให้น้องที่ทำงานไปและ เพราะน้องมันฟังแล้วชอบ)

ตัวที่สองเป็น Crystal Earbud 1 เหมือนกันแต่เปลี่ยนเป็นสายแดงเหมือนกับ mx580 ช่างจันทร์ 
ตัวนี้ยังคงให้เสียงที่มีจุดเด่นคือ stage กว้างและปลายแหลมละเอียด แต่จาการการเปลี่ยนสายทำให้ได้เบสเพิ่ม
เสียงกลางหนาขึ้น ฟังสนุกกว่าตัวแรก

สรุป 2 ตัวแรก แนวเสียงละเอียด Stage กว้างมาก..ก มาแนวเดียวกับ mx580 ช่างจันทร์ ถ้าให้คะแนนเทียบกัน 
ผมให้สัก 9.5/10 (เอาเสียง mx580 ของช่างจันทร์เป็นบรรทัดฐานที่ 10 คะแนนเต็มนะครับ)

มาถึงตัวสุดท้าย ผมยกให้ตัวนี้เป็นพระเอกของเรื่อง ในกระทู้ที่ขายคือรายการที่ 5 Crystal Earbud V.2 
ตอนแรกที่ฟังเปรียบเทียบกับตัวน้องของมันคือ Crystal Earbud 1 ผมกลับไม่ชอบ เพราะอย่างแรกที่รู้สึกคือ stage แคบมาก แต่เมื่อฟังไปเรื่อยๆ จุกเด่นของตัวนี้คือ ให้แนวเสียงที่ค่อนข้างชัดทุกย่าน มาในแนวทางเดียวกับ mx980 เลยครับ 
ปลายแหลมดี เสียงกลางชัด เบสแน่น ฟังสนุกมาก ผมลองเอามาฟังเปรียบเทียบกับ mx980 โอ้ว..พระเจ้ามันใกล้เคียงกันมากถ้าให้คะแนนโดยเอา mx980 เป็นบรรทัดฐานเต็ม 10 ผมให้คะแนนดังนี้

เสียงแหลม 9/10
กลาง 9.5/10
เบส 9.5/10
อิมแพค 9.5/10
Stage 9/10

ผมชื่นชอบ mx580 ของช่างจันทร์มาก ที่สามารถให้เสียงที่ดีกว่า mx980 ในหลายด้าน แต่ก็ยังมีจุดอ่อนในเรื่องเบส
แต่สำหรับ Crystal Earbud V.2 แม้ว่าจะไม่ได้เหนือกว่า mx980 แต่มันหายใจรดต้นคอ mx980 ในทุกแนวเสียง 
แม้ว่า body ยังคงจะดูก๊องแก๊งอยู่ก็ตาม แต่ด้วยค่าตัวแค่ 390 บาท ผมว่าโตตะระคุ้ม..ม มากมายครับ

ขออภัยคุณออฟด้วยที่ไม่ได้บอกกล่าวว่าจะมาเล่าให้เพื่อนๆฟังในบอร์ดนี้ครับ....
แต่ถ้ามีตัวใหม่ๆ อย่าลืมบอกผมด้วยนะ จะคอยติดตามผลงานครับ...ขอบคุณครับ

...เช้านี้ ลองฟังฝ่านแอมป์ตัวละพันกว่า เสียงขยับไปไกลอีกทุกย่าน มัน....แจ่มจริงๆครับ 


ขอขอบคุณ  tore22 ,  oxymoron   forum.munkonggadget.com

รีวิว OKER DS300

อ้างอิงจาก http://www.bloggang.com/


รีวิว Review หูฟังเอื้ออาทร OKER DS300 แต่คุณภาพสุโค่ย
แม้แต่หูฟังไฮโซบางตัวยังต้องมองค้อน

ใครจะคิดว่าหูฟังยี่ห้อบ้านๆ จะมีดี ยอมรับผมเองก็ไม่เชื่อตอนแรกที่เคยได้ฟังมาเพราะเมื่อก่อนมันเป็นหูฟังที่ชอบแถมเวลาเราไปซื้อคอม และมันก็ก๊องแก๊งมากๆในด้านเสียง แต่ BUT NOW ไอ้รุ่นที่ผมจะรีวิวนี่มันทำให้ผมเปลี่ยนความคิดทันที หลังจากได้ยินสมยานามหูเอื้อาทรมาสักพักและ ผมมุ่งตรงไป 1000ติ๊บ ทันที ราคาค่าตัวมันแค่ 100 เดียวเทานั้น ย้ำๆๆ 100 เดียวเท่านั้นตอนแรกที่ แกะที่ร้านลองทดสอบว่ามันติดทั้งสองข้างรึเปล่า เสียงที่ได้ยินวินาทีแรกผมลองเสียบกับมือถือ เบสนำมาเลย แต่เสียงยังคลุมเคลือเหมือนคนมีท้อง เอาวะ 100 นึงถ้าไม่ดีเอาไปมัดปากถุงอาหารแมวได้ กลับบ้านมาเอามันเผาทันที (ในที่นี้คือการเบิรน์เพื่อให้เสียงของหูฟังหรือดอกลำโพง เราเข้าที่เข้าทางแทนที่เราจะต้องนั่งฟังไปเรื่อยๆ เป็นสิบชั่วโมงหรือบางคนเป็นร้อยชั่วโมงด้วยซ้ำกว่ามันจะเข้าที่ และส่วนหนึ่งถ้าเรามีหูฟังหรือลำโพงที่ใช้งานมานานๆ จะใช้ไฟล์เบริน์ล้างสนามแม่เหล็กสัก 3 นาที แล้วหูฟังแสนรักหรือลำโพงจะมีเสียงใสปิ๊งๆ เหมือนเดิม) ผมเผามันไปสัก 20 ชั่วโมง เอามาลองฟังดูเฮ้ยมันแหล่มว่ะ มันเป็นบ้านๆแต่มีดีเลยว่ะ เบสมานุ่มนวลพอตัว เสียงกลางเสตจเสียงมันมาครบเครื่องทุกชิ้น เสียงร้องไม่มีหลบมุมไกลเหมือนร้องหลังเวที เสียงมันเคลียร์จนเรียกว่าเอาไปชนกับหูฟังยี่ห้อดังๆ บางตัวในราคาพันต้นๆ ได้สบายๆ เล่นเอาหูราคา 2000 ที่ฟังกับไอพอดตุ้ด ที่ผมมีร้องไอ้หยา!!เลย ถ้าเพื่อนมองหาหูฟังราคาไม่แพง แต่ฟังแล้วเพราะได้อรรถรสของเพลงผมแนะนำ OKER DS 300 ยาจกซูตัวนี้เลย ยิ่งคนชอบเพลงแนว Rock หรือ Dance , Pop นี่น่าจะชอบเลย ดีกว่าไปเสียเงินซื้อพวกหูปลอมที่ขายกันเกลื่อนๆ ราคาหลายร้อยบาท รับรอง 100 บาทที่คุณจ่ายไปไม่เสียดายอย่างแน่นอน สำหัรบพวกท่านหูเทพหรือหูทอง ผมว่าท่านผ่านมันไปเลยนะครับเพราะมันคงสู้หูที่ท่านใช้อยู่ไม่ได้ครับ วันหลังมีอะไรดีๆ จะรีวิวให้อ่านอีกคร้าบ ลืมบอกหาซื้อ OKER ได้ที่ร้านขายอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 1000ติ๊บ หรือตามแหล่งไอที ไม่ต้องกลัวมีของปลอมครับมันไม่มี กลัวติดใจไปซื้อมาตุนมากกว่า คิดว่าอีกไม่นานราคาอาจขยับขึ้น บายครับ

++++ รีวิวนี้มาจากความชอบส่วนตัว โปรดทดลองฟังและพิจารณาเองครับ บางท่านอาจไม่เห็นด้วย ผมขอบอกผมไม่ใช่กูรูนะครับแค่นักฟังเพลงหูสังกะสีครับ ฉนั้นควรทดลองฟังจากเพลย์เยอร์และเพลงที่ท่านชอบครับถึงจะรู้ว่าหูตัวนี้ใช่แนวที่ท่านชอบรึป่าวครับ++++


ขอขอบคุณ Piggypop Diary http://www.bloggang.com/